หลายคนอาจกำลังเจอปัญหา “งานก็เยอะ เวลาก็ไม่พอ พอหมดวันก็รู้สึกเหมือนตัวเองยังไม่ได้พักจริง ๆ เลย” ยิ่งพยายามจัดเวลาให้เป๊ะ ยิ่งเหนื่อยและเครียดมากกว่าเดิม
การจัดตารางชีวิตให้ดี ไม่ได้หมายถึงการอัดทุกอย่างให้เต็มเหมือนตารางเรียน แต่คือการรู้จัก “เผื่อช่องว่างให้ตัวเองหายใจ” ต่างหาก ถึงจะทำให้ชีวิตไม่เหนื่อยจนล้าไปทุกวัน
วันนี้เลยขอมาแบ่งปันแนวทางง่าย ๆ ที่ช่วยให้จัดตารางชีวิตแบบมีประสิทธิภาพ โดยที่ไม่รู้สึกว่าใช้ชีวิตแบบหุ่นยนต์ค่ะ

เริ่มจากสิ่งจำเป็นก่อน
ก่อนจะจับปากกาวางแผนทั้งวัน ลองถามตัวเองว่า “อะไรคือสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ สำหรับวันนี้” ไม่ใช่แค่ต้องทำเพราะเป็นหน้าที่ แต่รวมถึงสิ่งที่เรารู้ว่าทำแล้วสบายใจ เช่น พักผ่อน 30 นาทีตอนเย็น ออกกำลังกาย หรือมีเวลากินข้าวเงียบ ๆ สักมื้อ
สิ่งเหล่านี้ควรถูกจัดเข้าไปในตารางเท่า ๆ กับงานสำคัญ เพราะถ้าขาดไป เราก็จะรู้สึกเหนื่อยสะสมเรื่อย ๆ
เว้นช่องว่างระหว่างกิจกรรม
อย่าใส่งานหรือภารกิจเรียงติดกันแน่นทุกช่วงเวลา ลองเว้นไว้บ้างสัก 10–15 นาที เพื่อให้ตัวเองได้ “พักเปลี่ยนโหมด” เช่น หลังประชุม ลองลุกไปยืดเส้น หรือแค่เดินออกไปหายใจลึก ๆ ก็ช่วยให้สมองไม่ล้าจนเกินไป
ตั้งเวลาจบให้แต่ละอย่าง
การทำงานโดยไม่มีเวลาจบที่ชัดเจน มักทำให้เราเผลอใช้เวลานานเกินจำเป็น แล้วก็เหนื่อยเกินจริง ลองตั้งเวลาให้ชัดว่า “งานนี้ขอทำแค่ 45 นาที” หรือ “หลัง 3 ทุ่ม จะไม่แตะมือถือ” แล้วพอถึงเวลาก็หยุดจริง ๆ แม้จะยังไม่เสร็จก็ไม่เป็นไร วันพรุ่งนี้ยังมีให้ทำต่อ
อย่ายัดเป้าหมายเยอะเกินไปในวันเดียว
คนส่วนใหญ่มักตั้งใจดี แต่พอเขียน To-do list ยาวเหยียด วันนั้นก็หมดแรงตั้งแต่เช้า เพราะรู้ว่า “ไม่มีทางทำหมดแน่ ๆ” ลองตั้งเป้าแค่ 3 อย่างสำคัญที่อยากให้เสร็จ ถ้ามีแรงค่อยทำเพิ่ม แบบนี้จะรู้สึกมีกำลังใจและไม่หมดพลังตั้งแต่เริ่ม

มีเวลาว่างแบบไม่มีแผนบ้าง
ทุกวันควรมีช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องมีเป้าหมาย ไม่ต้องรีบ แค่นั่งเฉย ๆ ก็ได้ สิ่งนี้ฟังดูเหมือนไม่สำคัญ แต่คือช่วงที่หัวใจได้พักจริง ๆ และเป็นพลังเงียบ ๆ ที่ทำให้เรามีแรงลุยต่อค่ะ
การจัดตารางชีวิตที่ดีไม่ใช่การยัดทุกอย่างให้ครบ แต่คือการจัดให้ตัวเองมีพลังพอจะใช้ชีวิตต่อในวันถัดไป ลองกลับมาฟังร่างกายตัวเอง และวางแผนอย่างมีเมตตากับตัวเองบ้างนะคะ แล้วคุณจะไม่รู้สึกเหนื่อยเกินไปอีกต่อไป