วิธีเตรียมเงินแผนสำรองสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกครอบครัวควรมี การมีเงินสำรองจะช่วยให้คุณและครอบครัวสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วย การตกงาน หรือเหตุการณ์อื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของครอบครัว บทความนี้จะนำเสนอแนวทางในการเตรียมเงินแผนสำรองสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ทุกครอบครัวควรพิจารณา
ทำไมเงินสำรองฉุกเฉินถึงสำคัญ
เงินสำรองฉุกเฉินเป็นกองทุนที่จัดเตรียมไว้สำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การเจ็บป่วยที่ต้องรักษา การสูญเสียงาน หรือการซ่อมแซมบ้านฉุกเฉิน เงินกองทุนนี้เป็นสิ่งที่ช่วยให้ครอบครัวมีความมั่นคงทางการเงินในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนและป้องกันไม่ให้ครอบครัวต้องหันไปใช้หนี้เพิ่มขึ้นเพื่อแก้ปัญหาชั่วคราว
การวิจัยจากมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น พบว่า ครอบครัวที่มีเงินสำรองฉุกเฉินอย่างเพียงพอมีโอกาสน้อยที่จะต้องพึ่งพาการกู้ยืมหนี้ใหม่ในช่วงวิกฤต ทำให้สามารถฟื้นตัวจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้รวดเร็วยิ่งขึ้น การมีเงินสำรองจึงเป็นการสร้างความมั่นคงทางการเงินระยะยาว
กำหนดจำนวนเงินสำรองที่เหมาะสม
การกำหนดจำนวนเงินสำรองที่เหมาะสมควรพิจารณาจากค่าใช้จ่ายของครอบครัวในแต่ละเดือน ค่าใช้จ่ายพื้นฐาน เช่น ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ควรได้รับการคำนวณอย่างละเอียด จากนั้นจึงกำหนดจำนวนเงินสำรองที่เพียงพอสำหรับใช้จ่ายในช่วงเวลา 3-6 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แนะนำในการมีเงินสำรอง
งานวิจัยจาก สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NBER) แสดงให้เห็นว่า การมีเงินสำรองเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายพื้นฐาน 3-6 เดือน สามารถลดความเครียดทางการเงินและเพิ่มความสามารถในการจัดการกับวิกฤตทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ .
- ค่าใช้จ่ายพื้นฐาน คำนวณค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของครอบครัวในแต่ละเดือน
- เงินสำรองสำหรับ 3-6 เดือน กำหนดจำนวนเงินสำรองที่เพียงพอสำหรับใช้จ่ายในช่วงเวลา 3-6 เดือน เพื่อให้ครอบครัวมีความมั่นใจในการรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
วิธีการเริ่มต้นออมเงินสำรอง
การเริ่มต้นออมเงินสำรองอาจเป็นเรื่องท้าทาย แต่สามารถทำได้โดยการสร้างวินัยในการออมเงิน ควรตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนในการออมเงินในแต่ละเดือน และเริ่มต้นจากจำนวนเล็กๆ ที่คุณสามารถออมได้ หากคุณมีรายได้เสริม ควรนำรายได้ส่วนนั้นมาเพิ่มในกองทุนสำรองฉุกเฉิน
การศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่า ครอบครัวที่มีการออมเงินสำรองอย่างสม่ำเสมอมีแนวโน้มที่จะรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ดีกว่า และสามารถฟื้นตัวจากวิกฤตทางการเงินได้เร็วขึ้นเมื่อเทียบกับครอบครัวที่ไม่มีการออมเงินสำรอง
- การออมเงินอัตโนมัติ ตั้งระบบการหักเงินออมจากบัญชีเงินเดือนเพื่อให้การออมเงินสำรองเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
- เพิ่มรายได้เสริม: นำรายได้เสริมมาสมทบในกองทุนสำรองฉุกเฉินเพื่อเร่งการออมเงินให้เร็วขึ้น
เลือกที่เก็บเงินสำรองฉุกเฉิน
เงินสำรองฉุกเฉินควรเก็บไว้ในที่ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย และมีความเสี่ยงต่ำ แนะนำให้เก็บไว้ในบัญชีออมทรัพย์ที่สามารถเบิกถอนได้ทันที หรือลงทุนในเครื่องมือทางการเงินที่มีสภาพคล่องสูง เช่น กองทุนตลาดเงิน การเก็บเงินในลักษณะนี้จะช่วยให้คุณสามารถนำเงินออกมาใช้ได้ทันทีเมื่อจำเป็น โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือประสบความเสี่ยงจากการลงทุน
การวิจัยจากสถาบันการเงินแห่งลอนดอน แนะนำให้ครอบครัวเก็บเงินสำรองฉุกเฉินในบัญชีออมทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง เพราะสามารถเข้าถึงเงินได้ง่ายและมีความปลอดภัยสูงสุดสำหรับการใช้งานในกรณีฉุกเฉิน .
- บัญชีออมทรัพย์: เหมาะสำหรับการเก็บเงินสำรองที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและปลอดภัย
- กองทุนตลาดเงิน: ทางเลือกสำหรับการเก็บเงินที่มีสภาพคล่องสูงและมีผลตอบแทนเล็กน้อย
รักษาเงินสำรองให้คงที่
เมื่อคุณเริ่มมีเงินสำรองแล้ว ควรตรวจสอบและปรับปรุงแผนการออมเงินสำรองเป็นระยะ การใช้เงินสำรองในช่วงเหตุการณ์ฉุกเฉินเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ควรมีแผนที่จะเติมเงินสำรองให้เต็มจำนวนเดิมทันทีที่สามารถทำได้ เพื่อรักษาความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว
การศึกษาจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย พบว่า ครอบครัวที่มีการตรวจสอบและปรับปรุงเงินสำรองฉุกเฉินอย่างสม่ำเสมอมีความมั่นคงทางการเงินมากกว่าครอบครัวที่ไม่ทำการตรวจสอบและปล่อยให้เงินสำรองลดลงตามการใช้งาน .
- การเติมเงินสำรอง: หากต้องใช้เงินสำรอง ควรรีบออมเงินเพื่อเติมเงินให้กลับมาเท่าเดิม
- การตรวจสอบเป็นประจำ: ตรวจสอบจำนวนเงินสำรองและปรับเปลี่ยนตามความจำเป็นเพื่อให้สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายปัจจุบัน
สรุปท้ายบทความ แนวทางเตรียมเงินแผนสำรองสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน
การเตรียมเงินแผนสำรองสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกครอบครัวควรให้ความสำคัญ การมีเงินสำรองที่เพียงพอจะช่วยให้ครอบครัวสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างมั่นใจ ควรกำหนดจำนวนเงินสำรองที่เหมาะสม เริ่มต้นออมเงินอย่างต่อเนื่อง และเก็บเงินไว้ในที่ที่มีสภาพคล่องสูง การรักษาเงินสำรองให้คงที่เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ครอบครัวมีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว