การก้าวข้ามจากธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ไปสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก (Global Brand) ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับแบรนด์ไทย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของแบรนด์ไทยหลายรายที่ใช้ความโดดเด่นทางวัฒนธรรม คุณภาพสินค้า และความเฉลียวฉลาดทางกลยุทธ์จนสามารถพิชิตตลาดต่างประเทศได้สำเร็จ การเดินทางนี้ต้องอาศัยการเตรียมพร้อม การปรับตัว และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในภูมิทัศน์ของตลาดโลก
บทความนี้จะสรุปกลยุทธ์สำคัญที่แบรนด์ไทยควรนำไปใช้ หากต้องการขยายขอบเขตธุรกิจจากระดับประเทศไปสู่ระดับโลก
1. กำหนด “แก่นแท้ไทย” ที่เป็นสากล
ความได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของแบรนด์ไทยคือ เอกลักษณ์ของความเป็นไทย อย่างไรก็ตาม การนำเสนอเอกลักษณ์นี้ต้องไม่จำกัดอยู่แค่ในประเทศ แต่ต้องหาจุดร่วมที่ “สากล” และสร้างคุณค่าที่จับต้องได้สำหรับผู้บริโภคทั่วโลก
- เปลี่ยนเอกลักษณ์ให้เป็นคุณค่า แบรนด์ไม่ได้ขายแค่ “ความเป็นไทย” แต่ขาย ความน่าเชื่อถือ ที่มาพร้อมกับมาตรฐานการผลิตของไทย (เช่น อาหารและสมุนไพร), ความพิถีพิถัน ในงานฝีมือ (เช่น สินค้าหัตถกรรม), หรือ ประสบการณ์ ที่โดดเด่น (เช่น การบริการที่เป็นมิตร)
- เน้นความยั่งยืนและความรับผิดชอบ ตลาดโลกให้ความสำคัญกับสินค้าที่มาจากกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Sustainability) และมีธรรมาภิบาล การเน้นย้ำถึงวัตถุดิบจากท้องถิ่น การผลิตที่ลดผลกระทบต่อโลก และการสนับสนุนชุมชน จะช่วยเพิ่มแต้มต่อให้กับแบรนด์ไทยได้อย่างมาก
2. วางกลยุทธ์การขยายตลาดแบบเจาะจง และ ปรับตัว
การเข้าสู่ตลาดโลกไม่จำเป็นต้องพร้อมกันทุกประเทศ แต่ควรเลือกตลาดเป้าหมายที่มีศักยภาพและปรับผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของตลาดนั้นๆ
3. ใช้ Digital Platform เป็นสะพานสู่โลกภายนอก
ในยุคดิจิทัล การสร้างการรับรู้และการเข้าถึงตลาดโลกสามารถทำได้โดยไม่ต้องมีหน้าร้านทางกายภาพในทุกประเทศ
- E-commerce และ Marketplace ข้ามพรมแดน ใช้แพลตฟอร์ม E-commerce ระดับโลก เช่น Amazon หรือแพลตฟอร์มระดับภูมิภาค เช่น Shopee/Lazada ในการเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง วิธีนี้ช่วยลดต้นทุนการกระจายสินค้า และทำให้แบรนด์สามารถทดสอบตลาดได้อย่างรวดเร็ว
- Content Marketing ที่มีคุณภาพ สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและเป็นสากล โดยใช้ภาษาอังกฤษและภาษาท้องถิ่นของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเล่าเรื่องราวของแบรนด์ความเป็นมาของสินค้า และความยั่งยืนของกระบวนการผลิต
- การใช้ Influencer และ KOLร่วมมือกับผู้มีอิทธิพลในตลาดเป้าหมายเพื่อแนะนำสินค้า การรีวิวจากบุคคลที่น่าเชื่อถือในท้องถิ่นมีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคต่างชาติ
4. สร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งและระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ
การขยายสู่ตลาดโลกต้องอาศัยเครือข่ายที่มั่นคง ทั้งในด้านการผลิตและการขนส่ง
- พันธมิตรท้องถิ่น การหาคู่ค้าหรือตัวแทนจำหน่ายในประเทศเป้าหมายที่มีความเข้าใจในตลาด กฎหมาย และช่องทางการจัดจำหน่าย จะช่วยให้แบรนด์เข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้นมาก SME ไทยไม่ควรก้าวไปเพียงลำพัง
- ระบบซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ ต้องมั่นใจว่าระบบการผลิตและการจัดส่งสินค้าสามารถรองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากต่างประเทศได้ และสามารถส่งมอบสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ การลงทุนใน ระบบจัดการคลังสินค้า (WMS) และการทำงานร่วมกับบริษัทขนส่งที่มีประสบการณ์ด้าน Cross-Border Logistics เป็นสิ่งจำเป็น
การเปลี่ยนผ่านจาก SME สู่ Global Brand คือการปฏิวัติความคิดและกระบวนการทำงานทั้งหมด แบรนด์ไทยมีความได้เปรียบในเรื่องคุณภาพและความคิดสร้างสรรค์ แต่ต้องเสริมด้วย กลยุทธ์ที่คมชัด การ ปรับตัวที่รวดเร็ว และการใช้ เทคโนโลยีดิจิทัล เป็นเครื่องมือในการขยายขอบเขต ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จระดับโลกคือธุรกิจที่สามารถเชื่อมโยงคุณค่าจากท้องถิ่น (Local Core) เข้ากับความต้องการของผู้คนทั่วโลก (Global Demand) ได้อย่างลงตัว แบรนด์ไทยที่พร้อมจะลงทุน พัฒนา และเรียนรู้จากความล้มเหลว ย่อมมีโอกาสสูงที่จะเป็นดาวเด่นดวงต่อไปในเวทีโลกอย่างแน่นอน